การเลือกของชำร่วยให้เหมาะกับ Theme งานของคุณ

ในส่วนของการให้บริการเช่าชุดราตรีที่ปิ่นเกล้าก็จะมีบริการอีกหลายประเภทซึ่งแต่ละประเภทก็ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าชุดราตรีเลยโดยเฉพาะของชำร่วยถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเหมือนกันเนื่องจากของชำร่วย เป็นของขวัญแทนใจ เอาไว้สำหรับตอบแทนน้ำใจที่แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานราตรีนั้นๆ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ ควรเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน

               ดังนั้นร้านเช่าชุดราตรีที่ปิ่นเกล้าก็มีบริการของชำร่วยในแบบต่างๆที่มีทั้งความเก๋ ความทันสมัยรวมไปถึงการดีไซน์ของชำร่วยที่ดูน่ารักและถือเป็นน่าตาให้กับทางร้านเช่าชุดราตรีที่ปิ่นเกล้าได้ทีเดียว

               ของชำร่วยราตรีเป็นสิ่งที่พิเศษไม่น้อยไปกว่าการเตรียมงานด้านอื่นๆ ดังนั้นหากต้องการเลือกของชำร่วยเลือกให้เข้ากับ Theme งานของคุณ โดยอาจพิจารณาจากโทนสี หรือสไตล์ เช่น เป็นงาน Indoor ในโรงแรมหรู หรือ Outdoor ที่สนามหญ้าหรือชายหาดก็ต้องเลือกของชำร่วยให้เหมาะกับสถานที่หรือThemeงานของคุณที่จัดขึ้นว่าอยู่ในประเภทไหนและควรใช้ของชำร่วยแบบใดที่ไว้สำหรับเป็นของขวัญแทนใจให้กับแขกค่ะ

               หากท่านหลายๆคนต้องการของชำร่วยที่มีดีไซน์แปลกๆเป็นของตนเองทางร้านเช่าชุดราตรีที่ปิ่นเกล้าก็ยังมีบริการไว้ให้สำหรับผู้ที่ต้องการแบบของชำร่วยที่ไม่เหมือนใครๆโดยมีนักออกแบบมืออาชีพมาคอยให้คำปรึกษาในการออกแบบของชำร่วยของท่านอีกด้วย

ทัวร์จีนแนะนำประวัติศาสตร์จีน

ก่อนจะไปเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศจีน  ทัวร์จีนก็มีความรู้เชิงประวัติศาสตร์ของดินแดนมังกรมาให้ทราบกัน  จะได้รู้สึกซาบซึ้งไปกับบรรยากาศของประเทศจีน เพราะประเทศจีนเองเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแนวมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหรือเชิงประวัติศาสตร์  ซึ่งโปรแกรมทัวร์จีนเองอยากแนะนำลูกทัวร์ว่าการที่เราจะไปเที่ยวที่ไหน หากเราใส่ใจในรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นไว้บ้าง ก็จะเป็นการเพิ่มอรรถรสในการเที่ยวชมได้ด้วย 

หากกล่าวถึงประเทศจีน เราก็จะนึกถึง สงครามกลางเมือง (Chinese Civil War) ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับพรรคก๊กมินตั๋ง (ชื่อทางการว่า:พรรคชาตินิยมแห่งประเทศจีน (KMT)) สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2492 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยจบลงด้วยการที่ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เข้าปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนพรรคก๊กมินตั๋งได้เข้าปกครองไต้หวัน และเกาะบางเกาะในมณฑลฝูเจี้ยน ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492 เหมาเจ๋อตุง ได้ประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ การปกครองในสมัยของเหมานั้น เข้มงวดและกวดขัน แม้กระทั่งชีวิตประจำวันของประชาชน

หลังจากที่เหมาถึงแก่อสัญกรรม เติ้งเสี่ยวผิงก็ได้ขึ้นสู่อำนาจ โดยจีนยังคงอยู่ในระบอบคอมมิวนิสต์ หลังจากนั้นรัฐบาลจีนจึงได้ค่อยๆ ลดการควบคุมชีวิตส่วนตัวของประชาชน และพยายามที่จะปฏิรูประบบเศรษฐกิจของตนให้เป็นไปตามกลไกตลาดการปฏิวัติในจีน

เจียง ไคเช็ก เป็นผู้นำของจีนระหว่าง พ.ศ. 2471 ถึง พ.ศ. 2492การปฏิวัติครั้งแรกของจีนเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2454 (ค.ศ. 1911) ซึ่งเป็นการโค่นล้มอำนาจการปกครองของราชวงศ์ชิง โดยการนำของ ดร. ชุน ยัตเซน หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง เป็นผลทำให้จีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ประชาธิปไตยในที่สุด สาเหตุที่ก่อให้เกิดการโค่นล้มอำนาจครั้งนี้น่าจะมาจากความเสื่อมโทรมของสภาพสังคมจีน ผู้นำประเทศจักรพรรดิแมนจูไม่มีอำนาจกำลังพอที่จะปกครองประเทศได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาปกครอง 268 ปี (พ.ศ. 21872455) มีแต่การแย่งชิงอำนาจในหมู่ผู้นำราชวงศ์ ด้วยเหตุนี้ราษฎรส่วนมากจึงตกอยู่ในสภาพยากจน ชาวไร่ชาวนาถูกขูดรีดภาษีอย่างหนัก ถูกเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าของที่ดิน ชาวต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ แผ่นดินจีนถูกคุกคามจากต่างชาติ    โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจตะวันตก และญี่ปุ่น ซึ่งจีนทำสงครามต่อต้านการรุกรานของกองกำลังต่างชาติเป็นฝ่ายแพ้มาโดยตลอด ทำให้คณะปฏิวัติไม่พอใจระบอบการปกครองของราชวงศ์แมนจู   เจียง ไคเช็ก เป็นผู้นำของจีนระหว่าง พ.ศ. 2471 ถึง พ.ศ. 2492

         เพื่อความสำเร็จในการแก้ปัญหาของของประเทศชาติ ซุน ยัตเซ็น ผู้นำฯ จึงได้ประกาศอุดมการณ์ของการปฏิวัติ 3 ประการ เรียกว่า ลัทธิไตรราษฎร์ขึ้นมา

               นี่คือสรุปโดยย่อของประวัติศาสตร์ประเทศจีน แต่ถ้าใครอยากศึกษาแบบเต็มๆปัจจุบันนี้ก็มีข้อมูลที่หาไม่ยากเลยทั้ง  ว่าแต่พอรู้ประวัติศาสตร์จีนแล้ว เวลาไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆของประเทศจีนก็ควรรู้จักทำความเคารพโบราณสถาน โบราณวัตถุของประเทศเขาด้วย เหมือนอย่างที่คนไทยเองก็อยากให้ชาวต่างชาติให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราเคารพสักการะ  ไปเที่ยวเพื่อสนุกได้แต่จะให้ดีควรทำตัวให้มีสาระด้วยนะ

แนะวิธีการป้องกันอันตรายจากไฟประดับในเทศกาลปีใหม่

เสนอเคล็ดลับปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บและอันตรายจากไฟ ขณะที่ประชาชนกำลังเตรียมและเฉลิมฉลองวันนักขัตฤกษ์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่    ตามสถิติของมูลนิธิด้านความปลอดภัยจากไฟฟ้าสากล มีผู้ที่ตกแต่งประดับบ้านสำหรับเทศกาลวันนักขัตฤกษ์ในฤดูหนาว คือ การประดับไฟต้นคริสต์มาส 83 % การประดับไฟภายในบ้านโดยใช้ไฟฟ้า 63 % และการประดับไฟนอกบ้าน 58 %

               จากปี 2005-2009 มีอัตราเฉลี่ยเกิดเหตุไฟไหม้ตามบ้านจากต้นคริสต์มาสเป็นจำนวนปีละ 240 ครัวเรือน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บ 27 ราย และทำให้ทรัพย์สินเสียหายเป็นมูลค่า 16.47 ล้านดอลลาร์ และในแต่ละปีมีผู้เข้ารับการรักษาจากแผนกฉุกเฉินในโรงพยาบาล 5,800 ราย เนื่องจากการตกจากที่สูงซึ่งเกี่ยวข้องกับการตกแต่งประดับบ้านในช่วงเทศกาล ซึ่งในจำนวนนี้มีคนเกินกว่าครึ่งหนึ่งตกลงมาจากบันไดหรือจากหลังคาบ้านขณะที่กำลังตกแต่งประดับไฟนอกบ้าน

               เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดในช่วงเทศกาลวันนักขัตฤกษ์ปี 2556 นี้ จึงขอเสนอเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า ไฟประดับที่เป็นต้นเหตุก่อให้เกิดความเสียหาย คือ                

·      – อย่าใช้ไฟประดับที่มีสายไฟขาดหลุดลุ่ย ฟิวส์ขาดหรือหลอดไฟขาด

·      – อย่าใช้ที่เย็บกระดาษ ตะปูหรือตะขอเกี่ยวเพื่อแขวนสายไฟเพราะอาจจะแทงทะลุฉนวนป้องกันได้

·      – การใช้ปลั๊กต่อช่วงไม่ควรเกินสามสายโดยเสียบเข้าในปลั๊กไฟ/ช่องเสียบ

·      – จะต้องไม่ใช้ไฟที่เป็นเทียนไขหรืออยู่ใกล้ต้นไม้ที่ประดับอย่างต้นคริสต์มาส

ใช้บันไดไม้หรือไฟเบอร์กลาสเมื่อประดับไฟนอกบ้าน แทนการใช้บันไดโลหะ เพราะบันไดที่เป็นโลหะเป็นตัวนำไฟฟ้า