นมผงดัดแปลงของกินของใช้ทารกที่สำคัญ

baby-08

นมผงนั้นเป็นนับเป็นของกินของใช้ทารกที่มีความสำคัญมากสำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถให้น้ำนมแม่ได้ ฉะนั้นแล้วการเลือกซื้อนมผงดัดแปลงนั้นจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะนมผงดัดแปลงนั้นยังไงก็มีสารอาหารสู้น้ำนมแม่ไม่ได้ ดังนั้นจึงควรเลือกแบบที่มีสารอาหารแบบครบถ้วน เพียงพอสำหรับทารกมากที่สุด

               หลักการเลือกนมผงสำหรับทารกนั้นควรเลือกให้ถูกกับช่วงวัยของเด็ก อ่านฉลากข้างกล่องดูส่วนผสมที่มีความสำคัญสำหรับทารกด้วย ซึ่งทารกแรกเกิดนั้น ระบบการย่อยโปรตีนยังทำงานได้ไม่ดีนัก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรพึงระวังในจุดนี้ด้วย เพื่อที่จะได้ลดอาการท้องผูกสำหรับลูกน้อย

               เมื่อได้นมผงดัดแปลงแล้วของใช้ทารกที่จำเป็นจะต้องมีก็คือขวดนมค่ะ ควรเลือกขวดนมที่มีขนาดพอดีกับปริมาณการให้นมด้วย หากลูกยังไม่ถึง 3 เดือนควรเตรียมขวดนมที่มีขนาดเล็ก เพราะของวัยแรกเกิดถึง 3 เดือนนั้นเด็กจะทานนมบ่อย หากใช้ขวดนมที่มีขนาดใหญ่ อาจจะทำให้เด็กอิ่มจนเกินไป ทำให้มีการอ้วกออกมาค่ะ  วิธีการชงนมให้ทารกนั้น ต้องใช้น้ำร้อนในการชงเท่านั้นนะคะ ใส่ปริมาณนมให้พอดีไม่ควรเยอะเกินไป ทั้งนี้คุณแม่อาจจะดูจากข้างกล่องที่บอกวิธีการชงไว้ เพื่อที่ว่าลูกน้อยจะไม่ท้องผูก และหลักสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ควรที่จะเลือกซื้อนมผงดัดแปลงขนาดเล็ก คุณแม่หลาย ๆ ท่านนั้นมีความคิดผิด ๆ ที่เชื่อว่าหากซื้อแบบกระป๋องใหญ่หรือกล่องใหญ่จะทำให้ใช้ได้นานไม่สิ้นเปลือง แต่จริง ๆ นมผงนั้นหลังจากเปิดแล้วไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 1 เดือนนะคะ เพราะจะทำให้นมขึ้นมา เสื่อมประสิทธิภาพได้ และไม่ควรถ่ายนมลงกระป๋องเก่า เพราะจะมีเชื้อจุลินทรีย์เกิดขึ้น ทำให้เมื่อนำมาชงจะทำให้ทารกป่วยหรือท้องเสียได้ค่ะ

วัดอาซากุสะ

japan-09

สำหรับคนที่มีแผนการเพื่อจะไปทัวร์ญี่ปุ่นเพื่อไปไหว้พระหรือสัมผัสกับวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะก็เชื่อเหลือเกินครับว่า “วัดอาซาสุกะ” ย่อมต้องเป็นหนึ่งในโปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่นอย่างแน่นอนเพราะเนื่องจากวัดนี้เขาเป็นวัดที่เก่าแกที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่ใครก็ตามที่มีโอกาสมาที่ญี่ปุ่นเป็นอันต้องแวะกราบไหว้ขอพรทุกคน ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกันกับเรื่องราวของวัดอาซาสุกะกันดีกว่าครับเพื่อการทัวร์ญี่ปุ่นครั้งต่อไปของเราจะได้มีความสนุกสนานมากขึ้น

               วัดอาซากุสะนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดเซ็นโซจิ ซึ่งสาเหตุที่มีชื่อว่าวัดอาซากุสะนั้นก็เพราะว่าตัววัดนั้นตั้งอยู่บริเวณย่านอาซากุสะนั่นเอง วัดอาซากุสะแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานเจ้ากวนอิมองค์เล็กเพียง 5 นิ้วที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากครับซึ่งตามตำนานเล่าว่ามีชาวประมงสองพี่น้อง ทอดแหได้เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้มาจากแม่น้ำซูมิดะ ซึ่งแม้จะโยนทิ้งลงแม่น้ำกี่ครั้ง ก็จะติดแหของพวกเขาขึ้นมาทุกที  จึงได้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อประดิษฐานเจ้ากวนอิม วัดนี้เป็นวัดเก่าที่เก่าแก่ที่มีอายุประมาณ 1830 ปี แล้ว(สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 1171)จึงถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น  ปัจจุบันวัดอาซากุสะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนที่มาทัวร์ญี่ปุ่นและมาเยือนโตเกียวที่ต้องมาชมให้ได้

               จุดเด่นของวัดอาซากุสะนี้อีกอย่างหนึ่งที่ถือเป็นจุดถ่ายรูปที่เป็นเครื่องยืนยันว่าได้มาถึงวัดแห่งนี้แล้วก็คือโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บริเวณประตูด้านหน้าวัดติดกับถนนซึ่งเจ้าโคมไฟที่ว่านี้มีน้ำหนักถึง 670 กิโลกรัมเลยครับดังนั้นหากเห็นใครที่ไปทัวร์ญี่ปุ่นแล้วถ่ายภาพมามีโคมไฟขนาดใหญ่อยู่ในภาพก็สามารถเดาได้เลยว่าภาพดังกล่าวถ่ายที่วัดอาซากุสะแห่งนี้

พระราชวังซังด็อก

korea-09

ประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่มีศิลปะและวัฒนธรรมเก่าแก่ยาวนานประเทศหนึ่งของโลกที่มีปราสาท พระราชวัง สวยงาม ตระการตาไม่แพ้ชาติใด ซึ่งใครก็ตามที่ไปทัวร์เกาหลีล้วนแล้วแต่ต้องไปเยี่ยมชมด้วยกันทั้งสิ้นดังเช่นพระราชวังที่ผมกำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ที่เป็นพระราชวังอันดับต้นๆ ของเกาหลีที่คนมาทัวร์เกาหลีมาเยี่ยมชมให้ได้ครับ “พระราชวังซังด็อก”

               พระราชวังซังด็อก เป็นหนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดของเกาหลี สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแทจงแห่งราชวงศ์โชซ็อน เมื่อปี พ.ศ. 1948 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 1955 และด้วยเหตุที่พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวังคย็องบก ผู้คนจึงเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่าพระราชวังตะวันออก ต่อมาในสมัยของพระเจ้าซอนโจ กษัตริย์องค์ที่ 14 แห่งโชซ็อนได้โปรดเกล้าฯ ให้ขยายสนามหญ้าของพระราชวังเป็น 500,000 ตารางเมตร

ในปี พ.ศ. 2135 ขุนศึกญี่ปุ่น โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิได้เข้ารุกรานเกาหลี กินเวลายาวนานถึง 7 ปี พร้อมกับเผาทำลายพระราชวังจนหมดสิ้นแต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2152 โดยพระเจ้าซอนโจ และองค์ชายควางแฮกุน แต่อีก 4 ปีต่อมา พระราชวังกลับเกิดเพลิงเผาวอดอีกครั้งในเหตุจลาจลและก่อการยึดอำนาจ สถาปนาองค์ชายนึงยางขึ้นเป็นพระเจ้าอินโจ พร้อมกับเนรเทศองค์ชายควางแฮไปเกาะคังฮวา จนพระราชวังถูกโจมตีอีกครั้งจากจักรวรรดิชิงของประเทศจีน แต่หลังจากนั้นพระราชวังก็ได้รับการสร้างใหม่ให้อยู่ในสภาพดั้งเดิม

พระราชวังซังด็อกได้ถูกใช้เป็นที่ประทับขององค์กษัตริย์ ที่ว่าราชการ และที่ทำงานของขุนนางจนถึงปี พ.ศ. 2415 เมื่อพระราชวังคย็องบกซึ่งอยู่ข้างเคียงได้รับการสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งโดยสมเด็จพระจักรพรรดิซุนจง แต่อย่างไรก็ตามสมเด็จพระจักรพรรดิซุนจงนี้ก็ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังซังด็อกเรื่อยมากระทั่งเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2469

               ปัจจุบันพระราชวังซังด็อกได้รับการพัฒนา ปรับปรุง ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของประเกาหลีที่บริษัททัวร์เกาหลีทั้งหลายล้วนแต่บรรจุเข้าในโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวด้วยกันทั้งสิ้นครับ