มาทำความรู้จักกับ Addu Atoll (Seenu) , Naifaru และ Thinadhoo ที่มัลดีฟส์กัน

maldives-20

นักท่องเที่ยวมักคุ้นชินกับชื่อของเกาะมัลดีฟส์  ซึ่งทางทัวร์มัลดีฟส์จะขอแจกแจงว่าภายในเกาะใหญ่มัลดีฟส์นั้น ยังมีเกาะย่อยๆที่มีความสวยงามอยู่อีกมากมาย  วันนี้เลยขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ  Addu Atoll (Seenu) ,Naifaru และ Thinadhoo  ใครพร้อมแล้วไปกันเลยจ้า

Addu Atoll (Seenu) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมัลดีฟส์ เป็นเกาะปะการังที่มีรูปร่างเหมือนหัวใจยาวประมาณ 18 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 15 กิโลเมตรยาว มีเมืองหลวงคือ Hithadhoo มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 3 หมื่นคน  ที่นี่ประกอบไปด้วยเกาะทั้งสิ้น 24 เกาะ 20 เกาะนั้นยังไม่มีคนอาศัยอยู่ มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำที่เกิดจากน้ำขึ้นน้ำลงซึ่งอาจสูงถึงครึ่งเมตร หมู่เกาะทั้งหมดใน Seenu Atoll นี้มีความสวยงามมาก แถมยังมีต้นมะพร้าวจำนวนมากใกล้ที่อยู่อาศัย ชุมชนที่นี่มีการดูแลที่ดีเพื่อให้ Addu Atoll (Seenu) สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย บ้านที่สร้างขึ้นส่วนใหญ่ทำมาจากหินปะการัง และมักจะมีสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ผลไม้เช่นกล้วยและมะพร้าว

               Addu Atoll (Seenu) มีชื่อเสียงมากในระดับสากล ในเรื่องการดำน้ำ ชมปลากระเบน ฉลาม เต่าและปลาที่มีใหญ่ โดยสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี กระแสน้ำจะไม่แรงมากนักจึงเป็นสถานที่ดำน้ำที่ดีสำหรับนักดำน้ำมือใหม่ที่กำลังมองหาทริปดำน้ำที่น่าตื่นเต้น

Naifaru เป็นอีกหนึ่งเกาะที่แสนจะโรแมนติก นักท่องเที่ยวจะได้พบกับมุมมองของท้องทะเลสีคราม หาดทรายสีเงินขาวและภูเขาทราย คุณสามารถใช้วันหยุดของคุณในเกาะแห่งนี้เพื่อผ่อนคลายห่างไกลจากผู้คน หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนที่มีค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก  Naifaru มัลดีฟส์คนที่นี่ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม

               นอกจากนี้ ที่นี้ยังมีความหลากหลายของห้างสรรพสินค้าที่ขายสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นที่ระลึกและสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านอาหารรอบเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการให้บริการ มีเมนูอาหารอร่อยจากจีน ยุโรปและอาหารท้องถิ่นมัลดีฟส์ Naifaru เป็นที่สำหรับการผ่อนคลายอย่างแท้จริง

ส่วน  Thinadhoo  ตั้งอยู่ห่างจากเมล่าประมาณ 78 กิโลเมตร Thinadhoo มีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวที่คาดหวังจะได้ในวันหยุด ถ้ากล่าวถึงความพิเศษของที่นี่แล้วจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากภูมิทัศน์ที่งดงามซึ่ง Thinadhoo มีชื่อเสียงมาก คนส่วนใหญ่เรียกว่าเกาะมรกต ซึ่งอุดมไปด้วยความเขียวขจีและความหลากหลายของต้นไม้ที่โตเต็มที่แล้วและพื้นที่ทั้งหมดไม่มีมลพิษหรือสิ่งสกปรก สภาพภูมิอากาศที่นี่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแน่นอนและสถานที่ส่วนใหญ่เป็นที่ร่มรื่น นักเดินทางที่มาที่นี่จะได้พบกับlสถานที่ที่ดีที่สุดที่เงียบสงบ  ชายหาดที่นี่เหมาะสำหรับการเดินเล่นหรือนอนแดด นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำและดำน้ำดูปะการังซึ่งเป็นกิจกรรมที่นิยมมากที่สุด ที่นี่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็น ชีวิตทางทะเลที่มีสีสัน

Thinadhoo มีชื่อเสียงในหาดทรายนุ่ม น้ำใสๆที่สะท้อนแสงพระอาทิตย์ และพระอาทิตย์ขึ้นและตก ถือเป็นสถานที่ฮันนีมูนที่ยอดเยี่ยม  นักท่องเที่ยวคู่รักมักชื่นชอบการสวีตกันริมชายหาด ปลาหรือชีวิตทางทะเลที่มีสีสันจะพบมากในน่านน้ำนี้ซึ่งดึงดูดนักดำน้ำจากทั่วโลก ในเกาะมีรีสอร์ทหรูจำนวนมากที่ให้ความสะดวกสบาย และมีสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์ แบบร้านอาหารท้องถิ่น ร้านกาแฟและเครื่องดื่มเรียงรายอยู่ทั่วเกาะ

ชนเผ่าเมารี

NewZealand-19

เป็นที่ทราบกันดีสำหรับคนที่ได้ศึกษาเรื่องราวของประเทศนิวซีแลนด์มาบ้างก่อนที่จะเดินทางไปทัวร์นิวซีแลนด์ว่าประเทศนิวซีแลนด์นั้นนอกจากคนเชื้อสายยุโรปและเอเชียแล้วยังมีชนเผ่าพื้นเมืองโบราณที่ยังคงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมของนิวซีแลนด์ให้คงอยู่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งชาวพื้นเมืองเหล่านี้ได้แก่ชนเผ่าเมารี ดังนั้นในวันนี้ขอพาคณะทัวร์นิวซีแลนด์ไปรู้จักกันกับประวัติของชนเผ่าพื้นเมืองเผ่านี้กันครับ

               ชนเผ่าเมารีนั้นถือเป็นชาวโปลินิเชียนเผ่าแรกหรือรุ่นแรกที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ โดยได้เข้าครอบครองในส่วนทางใต้ของหมู่เกาะโปลินิเชียนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากินอาณาบริเวณทางตอนเหนือตั้งแต่หมู่เกาะฮาวายไปจนสุดเกาะฮีสเตอร์ ซึ่งชนเผ่าเมารีนั้นได้มาตั้งรกรากถิ่นฐานตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 โดยชาวเมารีเรียกหมู่เกาะนิวซีแลนด์นี้เป็นภาษาเมารีว่า Aotearoa แปลว่า “ดินแดนแห่งเมฆขาวที่ยาวไกล”

               ในปัจจุบันนี้ชนเผ่าเมารียังคงดำเนินชีวิตของตนตามวัฒนธรรมและประเพณีที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมาซึ่งสิ่งเหล่านี้เองได้เป็นแรงดึงดูดสำคัญที่ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาทัวร์นิวซีแลนด์เพราะต้องการเห็นศิลปะวัฒนธรรมโบราณของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่นั่นเอง

               สำหรับคนที่วางแผนจะไปทัวร์นิวซีแลนด์เพื่อไปเยี่ยมชมและดูวัฒนธรรมของชนเผ่าเมารีนั้นขอแนะนำให้ไปยัง Rotorua ครับเพราะที่นั่นถือเป็นแหล่งชุมชนของชาวเผ่าเมารีโดยเราสามารถเห็นสภาพการดำเนินชีวิตประจำวัน ประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ ของชนเผ่าเมารีจากสถานที่แห่งนี้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดส่วนใครที่กลัวว่าเมื่อไปถึงแล้วจะพูดคุยกับชนเผ่าเมารีไม่รู้เรื่องนั้นก็ไม่ต้องกังวลครับเพราะชนเผ่าเมารีเขาพูดภาษาอังกฤษได้

เรียนภาษารัสเซียไว้ ทัวร์รัสเซียได้ไม่มีหลง

russia-18

สำหรับบางคนแล้วการจะไปทัวร์รัสเซียนั้น เป็นเรื่องที่กังวลใจอยู่พอสมควร เพราะชาวรัสเซียส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แล้วยิ่งผู้ที่จะไปภาษาอังกฤษก็ไม่แข็ง ภาษารัสเซียก็ไม่ได้ ยิ่งทำให้ทริปการไปทัวร์นั้นยากมากขึ้นไปอีก ซึ่งก่อนอื่นนั้นอยากจะให้ผู้ที่กำลังจะมีแพลนไปทัวร์รัสเซียได้รู้จักกับภาษารัสเซียกันสักหน่อย อย่างน้อยอ่าน-เขียนบางคำที่สำคัญ ๆ ในการเที่ยวได้ ก็จะทำให้ทริปการเที่ยวสนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิมค่ะ

               จากข้อมูลที่มีการบันทึกเอาไว้ และมีการเผยแพร่มาแล้วว่า ภาษารัสเซียนั้นเป็นภาษาที่อยู่ในกลุ่มของสลาวิก โดยให้เป็นภาษาพูดอย่างกว้างขวาง นับว่าเป็นภาษาที่ยากที่สุดในโลกภาษาหนึ่งเลย ซึ่งอยู่ในกลุ่มอินโด-ยูโรเปี่ยน  ในส่วนของภาษาเขียนนั้นมีหลักฐานยืนยันปรากฏอยู่เริ่มจากคริสต์ศตวรรษที่ 10ในปัจจุบัน ภาษารัสเซียเป็นภาษาที่มีการใช้นอกประเทศรัสเซียด้วย โดยภาษารัสเซียนั้นเป็นภาษาที่มีความสำคัญทางการเมืองในยุคที่สหภาพโซเวียตกำลังเรืองอำนาจและยังเป็นภาษาราชการภาษาหนึ่งของสหประชาชาติ นับว่าเป็นหนึ่งในภาษาที่ยากต่อการทำความเข้าใจ สับสน วุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นเขียนหรือการอ่านออกเสียง

               แต่ก็ใช่ว่าภาษารัสเซียนั้นจะยากเกินกว่าจะเข้าใจ เพราะปัจจุบันนั้นมีการเปิดสอนภาษารัสเซียในหลาย ๆ มหาวิทยาลัยแล้ว แต่หากคุณต้องการที่จะเข้าใจภาษารัสเซียอย่างกระจ่าง ก็ควรที่จะเดินทางไปศึกษาต่อ หรือเรียนซัมเมอร์ที่รัสเซีย นอกจากจะได้ภาษาแล้วยังถือว่าได้ไปเที่ยวรัสเซียอีกด้วยล่ะ