3 ข้อควรรู้ก่อนกินยาลดความอ้วน

เพราะการกินยาลดความอ้วนนั้นถือเป็นทางลัดในการลดน้ำหนักที่เห็นผลไวมากที่สุด โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก ไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ต้องควบคุมอาหาร เพียงแค่ทานยาลดความอ้วนอย่างเดียวก็ทำให้คุณมีหุ่นที่ผอมเพียวสมใจ แต่การทานยาลดความอ้วนนั้นถือว่าเป็นอันตรายค่ะ ดังนั้นคุณควรจะรู้ถึงอาการที่จะเกิดขึ้นหลังจากทานยาลดความอ้วนด้วย

medicine-000
1. อาการผลข้างเคียงหลังกินยาลดความอ้วน
คุณควรที่จะต้องรู้ค่ะ เมื่อกินยาลดความอ้วนแล้วคุณจะมีอาการคอแห้ง ปากแห้งเพราะว่าในยาลดความอ้วนนั้นสารที่เพิ่มการเผาผลาญไขมันนำมาใช้เป็นพลังงานในปริมาณที่มาก คุณจะรู้สึกกระหายน้ำอยู่ตลอดเวลาค่ะ ดังนั้นหากทานยาลดความอ้วน ควรจะพกน้ำติดตัวไว้ด้วยตลอด
2. ความอยากอาหารหลังกินยาลดความอ้วน
อาการอยากอาหารของคุณจะหมดไปในทันที เพราะในยาลดความอ้วนนั้นจะมีตัวยากดประสาททำให้คุณไม่รู้สึกอยากทานอาหาร ดังนั้นวิธีคุณจะต้องฝืนตัวเองทานอาหารให้ได้ครบทุกมื้อค่ะ เพราะยิ่งคุณไม่ทานอาหารเลยจะทำให้เป็นอันตรายมาก บางรายถึงขั้นเสียชีวิตค่ะ ดังนั้นต้องทานอาหารให้ครบทุกมื้อก่อนทานยาลดความอ้วนค่ะ
3. อาการโยโย่เอฟเฟคหลังเลิกทานยาลดความอ้วน
เพราะเวลาที่คุณได้น้ำหนักตัวสมใจแล้ว เลิกทานยา อาการผลข้างเคียงต่าง ๆ ก็จะหายไปค่ะ และคุณก็จะสามารถกลับมาทานอาหารได้เป็นปกติ และอยากอาหารมากกว่าเดิมด้วยเพราะไม่มีอะไรมากดประสาทแล้ว ดังนั้นหากคุณไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารของคุณเสียใหม่ ก็อาจจะทำให้น้ำหนักตัวของคุณเพิ่มขึ้นมาได้ค่ะ

ประวัติความเป็นมาและการก่อตั้งประเทศมาเลเซีย

ทัวร์มาเลเซียขออินเทรนด์ไปกับ AEC เลยขอนำเสนอประวัติความเป็นมาของ 1 ในประเทศเพื่อนบ้าน นั่นก็คือ ประเทศมาเลเซีย จ้า

tour-011
จากข้อมูลประวัติศาสตร์ มาเลเซียได้รับอิทธิพลจากทั้งอินเดียและจีน ศูนย์กลางแห่ง อารยธรรมเก่าแก่ทั้งสองตั้งอยู่ทางตะวันตกและตะวันออก อิทธิพลนี้รุนแรงมากในบางยุคโดยเฉพาะ อิทธิพลจากอินเดีย มาเลเซียได้รับอิทธิพลจากอินเดียมากในส่วนที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมสมัยต้นและศาสนา ของตน อิทธิพลจีนจะน้อยกว่า ดังที่เราจะเห็นว่าอิทธิพลของจักรวรรดิจีนส่วนใหญ่มักจะไม่มีในทางตรง นอกจากนี้ ที่ตั้งภูมิศาสตร์ก็เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อมาเลเซียในประวัติศาสตร์สมัยต้น ไม่ใช่เหตุบังเอิญ ที่มาเลเซียตั้งอยู่ระหว่างอินเดียและจีนเท่านั้น ปัจจัยทางด้านภูมิศาสตร์อื่น ๆ ยังช่วยเพิ่มพูนความสำคัญ ของที่ตั้งของมาเลเซียอีกด้วย ต่างจากประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศที่อยู่ครึ่งทางระหว่างอินเดียและจีน แต่น้อยประเทศที่มีข้อได้เปรียบเป็นพิเศษแบบมาเลเซีย
มาเลเซียตะวันตกเป็นส่วนหนึ่งของคาบสมุทรที่ยื่นออกไปทางใต้จากผืนทวีปเอเชียและ ล้อมรอบด้วยทะเลเกือบหมด ถ้าต้องการแล่นเรือออกจากเมืองจีนไปยังอินเดียก็จะต้องแล่นเลียบฝั่ง มาเลเซียทั้งทางตะวันออกและตะวันตก แต่ถ้าหากว่าไม่ต้องการแล่นเรือไปตลอดทางคาบสมุทรมลายูซึ่ง แคบในตอนเหนือก็เป็นสถานที่ที่อำนวยความสะดวกที่สุดสำหรับการถ่ายเทสินค้าจากทะเลจีนไปยัง มหาสมุทรอินเดีย คาบสมุทรมลายูและชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกเฉียงเหนือของบอร์เนียวก็มีบทบาท สำคัญในแผนการเดินทาง ทั้งนี้เพราะลมมรสุมเป็นปัจจัยสำคัญทั้งทางด้านภูมิศาสตร์และภูมิอากาศ เนื่องจากมาเลเซียเป็นสถานที่ที่ลมมรสุมพัดมาบรรจบกัน แต่ในสมัยที่มีการเดินเรือ ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ลมมรสุมเป็นลมที่พัดจากสองทิศทางตามเวลาต่างกันในรอบปี ลมมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้พัดข้ามมหาสมุทรอินเดียจากเส้นศูนย์สูตรระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม ส่วนลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดจากฝั่งทะเลจีนและข้ามทะเลจีนระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือน เมษายน กล่าวได้ว่าลมมรสุมทั้งสองนี้จะมาบรรจบกันที่คาบสมุทรมลายูหรือโดยทั่ว ๆ ไปก็ในบริเวณหมู่ เกาะมาเลเซีย เรือที่แล่นมาจากเมืองจีนก็จะแล่นลงมาทางใต้ตามลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนเรือ ที่มาจากอินเดียก็จะมาทางตะวันออกตามลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อลมมรสุมเปลี่ยน เรือก็สามารถ เดินทางกลับได้ ฉะนั้นคาบสมุทรมลายูและฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงเหนือของบอร์เนียวจึงอยู่ในที่ตั้งที่ ได้เปรียบในการอำนวยที่จอดพักสำหรับผู้ที่จะเดินทางโดยตลอดจากอินเดียไปยังจีน หรือสำหรับผู้ที่จะ รอคอยลมมรสุมเปลี่ยนหรือสำหรับผู้ที่จะเดินทางเพียงครึ่งทางเท่านั้นแต่จะได้พบปะกับพวกพ่อค้า ด้วยกัน ณ “ที่พักครึ่งทาง” แห่งนี้ อาทิ พ่อค้าชาวจีนสามารถลงมาทางใต้ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือน เมษายน ทำธุรกิจของตนให้เสร็จเรียบร้อยแล้วเดินทางกลับได้ในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือน สิงหาคม
ด้วยเหตุนี้ มาเลเซียจึงก้าวเข้ามามีความสำคัญในประวัติศาสตร์โลก เพราะมี ข้อได้เปรียบจากสภาพทางภูมิศาสตร์เอื้ออำนวย อันที่จริงที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของมาเลเซียนับว่าเป็นปัจจัย ที่สำคัญที่สุดที่จะต้องคำนึงถึง ถ้าเราต้องการจะเข้าใจอดีตและแม้แต่ปัจจุบันหรืออนาคตของมาเลเซีย ภูมิศาสตร์ได้ชักนำมาเลเซียให้เข้ามาสู่เวทีประวัติศาสตร์โลก และภูมิศาสตร์ที่ไม่มีประเทศอื่นขนาบแต่ เปิดโล่งให้แก่โลกภายนอก ดังนั้น มาเลเซียจึงได้สัมผัสกับอารยธรรมต่าง ๆ และคนชาติต่าง ๆ มาก ใน ประวัติศาสตร์สมัยแรก ๆ ของมาเลเซีย คนชาติต่าง ๆ เหล่านี้นำเอาวัฒนธรรมและอารยธรรม การค้าและ การพาณิชย์ ศาสนาต่าง ๆ และระบบการเมืองต่าง ๆ มาให้มาเลเซีย ต่อมาก็มีผู้คนจากอินเดียและจีนเขามา ตั้งถิ่นฐาน ในชั้นแรกยังมีจำนวนเพียงเล็กน้อย แต่ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อแหล่งแร่และแหล่ง กสิกรรมของมาเลเซียถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเป็นกิจจะลักษณะแล้ว จึงมีผู้เข้ามาตั้งหลักแหล่งกันเป็น จำนวนมาก ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของมาเลเซียยังทำให้มาเลเซียได้รับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ นับแต่ช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 19 อีกด้วย สิ่งเหล่านี้ทำให้มาเลเซียกลายเป็นประเทศที่มีมาตรฐาน การครองชีพสูงที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชียทุกวันนี้ การที่ที่ตั้งของมาเลเซียอยู่ใกล้เส้นทางการค้าระหว่าง ตะวันออกกับตะวันตก ย่อมหมายถึงว่ามาเลเซียได้เรียนรู้สิ่งประดิษฐ์ของยุโรปสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 อย่างรวดเร็ว ฉะนั้น จากสภาพภูมิศาสตร์จึงทำให้มาเลเซียมีพลเมืองหลายชาติหลายภาษา และกลายเป็น ประเทศที่เศรษฐกิจก้าวหน้ามากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย รวมทั้งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของคณะทัวร์มาเลเซียด้วย
หากย้อนไปถึงประวัติศาสตร์ทางการเมืองและประวัติศาสตร์ทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย เราก็จะได้เห็นว่า เส้นทางการค้าและการเดินทางสำรวจมีอิทธิพลต่อฐานะของมาเลเซียในโลกอย่างไร เรา จะเห็นว่ามลายูและบรูไนรุ่งเรืองนับแต่ในสมัยที่มีสุลต่านปกครองมะละกาเมื่อการค้าระหว่างตะวันออก กับตะวันตกผ่านเข้ามาทางช่องแคบมะละกา และมะละกาเองก็เป็นเมืองท่าสำหรับหมู่เกาะทั้งหมดด้วย ต่อมาเมื่อการค้าของเขตนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชาวฮอลันดา เส้นทางการค้าที่สำคัญระหว่าง ตะวันออกและตะวันตกได้ผ่านไปทางช่องแคบซุนดา ทำให้ปัตตาเวีย (จาการ์ตา) เจริญรุ่งเรืองขึ้น ส่วนมะละกาและบรูไนก็เสื่อมลง การเปลี่ยนแปลงยังเกิดขึ้นต่อไปอีกเมื่อมลายูเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในทาง การเมืองระหว่างประเทศอีกครั้งหนึ่ง เมื่ออังกฤษรื้อฟื้นความสนใจของตนในมาเลเซียในตอนปลาย คริสต์ศตวรรษที่ 18 การก่อตั้งถิ่นฐานในปีนังและสิงคโปร์ได้ทำให้การค้ากลับคืนสู่ช่องแคบมะละกามาก ขึ้น และในที่สุดก็ทำให้เกิดการพัฒนาสินแร่อันอุดมสมบูรณ์ของมาเลเซียสมัยใหม่ และในระยะเดียวกันนี้ ชาวอังกฤษได้เริ่มให้ความสนใจซาราวักและซาบาห์อันนำไปสู่การมีอิทธิพลของอังกฤษขึ้นที่นั่น เพราะฉะนั้น ฐานะของมาเลเซียในประวัติศาสตร์จึงขึ้น ๆ ลง ๆ ตามความสนใจของชาติมหาอำนาจและ การล่าอาณานิคมเมืองขึ้นจากโลกตะวันตก
นอกจากนี้ การแผ่ขยายของศาสนาอิสลามทำให้เกิดการก่อตั้งระบบสุลต่าน หรืออิทธิพล จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ ซึ่งทำให้เกิดการก่อตั้งสเตรตส์ เซ็ตเติลเมนท์ (Straits settlements) อันเป็นการกำหนดท่าทีอย่างชัดเจนของอังกฤษต่อภูมิภาคส่วนนี้ยังผลให้เกิดอิทธิพลการคุ้มครองของ อังกฤษเหนือรัฐมลายู จนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 จีนจึงเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อมาเลเซียแต่ยังนับว่า น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับอิทธิพลของอินเดีย และถึงแม้ว่ามาเลเซียจะตั้งอยู่ครึ่งทางระหว่างจีนกับ อินเดีย แต่ในระหว่างศตวรรษก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 19 นั้น อินเดียก็ยังมีอิทธิพลอยู่ในคาบสมุทรและหมู่ เกาะของมาเลเซียมากกว่าจีนอยู่นั่นเอง

3 ที่ตรวจสารเสพติดน่าใช้

pic-10

เพราะที่ตรวจสารเสพติดนั้นแต่ละประเภทใช้งานต่างกันค่ะ และปัจจุบันก็มีหลายยี่ห้อวางออกจำหน่ายเยอะแยะไปหมด ซึ่งการจะซื้อที่ตรวจสารเสพติดก็ควรที่จะเลือกด้วยค่ะ เพราะบางยี่ห้อนั้นทำออกมาไม่ได้มาตรฐาน บางยี่ห้อราคาแพงกว่าคุณภาพ ฉะนั้นวันนี้จะมาแนะนำที่ตรวจสารเสพติดคุณภาพและราคาน่าใช้ค่ะ
1. ที่ตรวจสารเสพติด JSP THC Card
เป็นที่ตรวจสารเสพติดประเภทกัญชาค่ะ ภายในบรรจุตลับทดสอบกัญชา 50 ชุดทดสอบด้วยกัน เรียกได้ว่าซื้อครั้งเดียวตรวจสารเสพติดได้คุ้มเลยล่ะ มีวิธีใช้บอกอย่างละเอียดค่ะ ราคาก็ไม่แพงเกินไป วัสดุที่ใช้นั้นทำจากวัสดุชิ้นดี ทำให้สามารถตรวจหาสารได้อย่างแม่นยำมาก ๆ เลยค่ะ
2. ที่ตรวจสารเสพติด ยาบ้าและมอฟีน
เป็นชุดตรวจแบบง่ายชนิดหยดค่ะ ซึ่งใช้ทดสอบหาสารเสพติดและเมตาบอไลท์ในปัสสวะ ที่ตรวจสารเสพติดนี้จะใช้ได้กับยาบ้าและมอฟีนที่มีความเข้มข้น 1000/มล ขึ้นไป แม้ว่าจะเป็นชุดทดสอบขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพไม่เล็กเลยค่ะ เพราะตรวจได้อย่างเที่ยงตรงมาก ๆ
3. ที่ตรวจสารเสพติด ยาบ้าและยาไอซ์เป็นชุดตรวจแบบตลับที่ใช้งานแบบหยดปัสสวะค่ะ ซึ่งมีการอ่านค่าได้แม่นยำไม่แพ้ตัวอื่น ๆ ซึ่งหากใช้ที่ตรวจสารเสพติดแล้วไม่พบสารเสพติดในร่ายการ ผลก็จะออกมาอยู่ในตำแหน่ง C และ T แต่หากกว่าใช้ที่ตรวจสารเสพติดแล้วพบ จะขึ้นแถบม่วงแดงในตำแหน่ง C อย่างเดียวค่ะ ซึ่งนั่นแสดงว่าตรวจพบว่ามียาบ้าหรือยาไอซ์อยู่ในร่างกายนั่นเอง