ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าแห่งเมืองเฉิงตู

หากจะพูดถึงสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนแล้วล่ะก็เชื่อว่าแทบทุกคนย่อมต้องนึกถึงสัตว์ขนขาวแต่ขอบตาดำอย่าง “แพนด้า” หรือ “หมีแพนด้า” อย่างแน่นอนซึ่งถึงแม้ว่าปัจจุบันในประเทศเราก็มีหมีแพนด้าให้ชมที่สวนสัตว์เชียงใหม่ก็ตามแต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ตัดสินใจไปทัวร์จีนเพราะอยากไปเห็นแหล่งกำเนิดของเจ้าหมีแพนด้าเหล่านี้ดังนั้นในบทความตอนนี้ผมจึงขออนุญาตพาบรรดานักทัวร์จีนทุกคนไปยังเมืองเฉิงตูเพื่อไปพบกับแพนด้ายักษ์กันครับ

tour-04
ที่เมืองเฉิงตูแห่งนี้มีสถานที่อยู่สถานที่หนึ่งที่เป็นที่สนใจของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายที่ไปทัวร์จีนเป็นอย่างมากเพราะเนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นที่รวบรวมหมีแพนด้าไว้มากที่สุดในประเทศจีนเพื่อการวิจัยและพัฒนาเพาะพันธุ์โดยเจ้าสถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า” ครับ
ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเฉิงตูโดยอยู่ห่างจากตัวเมืองไปราวๆ 30 นาที ครอบคลุมพื้นที่ 600,000 ตารางเมตร โดยเจ้าศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าที่ว่านี้ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับเพาะพันธุ์และอนุรักษ์รวมไปถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาพฤติกรรมของหมีแพนด้าทุกสายพันธุ์มาตั้งแต่ปี พศ. 2530 และในปัจจุบันได้เปิดให้บุคคลทั่วไปและผู้ที่สนใจได้เข้าเยี่ยมชมและถ่ายรูปกับหมีแพนด้าเป็นที่ระลึก
ปัจจุบันศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าแห่งเมืองเฉิงตูเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.โดยไม่เว้นวันหยุดโดยค่าผ่านประตูจะอยู่ที่ 58 หยวนสำหรับผู้ใหญ่และ 29 หยวนสำหรับเด็กและนักเรียนในเครื่องแบบ

วัดไคหยวน ดินแดนสำคัญของเมืองแต้จิ๋ว

china-57

วัดไคหยวน ถือได้ว่าเป็นวัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองแต้จิ๋วในประเทศจีน   นักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้  เพราะสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์  และคงรูปเดิมด้วยความงดงามแห่งปะติมากรรมอันล้ำค่าตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังราว ใน ค.ศ. 738 สมัยจักรพรรดิถังสวนจง  

สถานที่แห่งนี้บางส่วนเป็นศิลปะสมัยราชวงศ์ซ่งและหยวน   โดยที่สมัยก่อนเคยมีเนื้อที่ร้อยกว่าโหม่วเลยทีเดียว   แต่ในปัจจุบันเมื่อนักท่องเที่ยวหรือนักทัวร์จีนได้เดินทางไป  จะสัมผัสได้ว่า  วัดนี้เหลือพื้นที่อยู่เพียงแค่ 20 โหม่วเท่านั้น  เพราะส่วนใหญ่แล้วกว่าจะมาถึงยุคปัจจุบัน พื้นที่แห่งนี้ก็ถูกรุกที่บ้าง  เอาพื้นที่ไปทำอย่างอื่นบ้างเหลือทำให้พื้นที่สำหรับสถานที่นี้ลดลงไป  แต่นั่นไม่ได้หมายถึงความสวยงามและความสำคัญจะลดลงแต่อย่างใดเลย  ในทางเข้าประตูใหญ่สำหรับคนเข้าออก  มีรูปท้าวโลกบาลอยู่ด้านซ้ายและขวาข้างละ 2 องค์ด้วยกัน  ตรงกลางจะเป็นรูปพระศรีอาริยเมตไตย   และมีอาคารหลักที่เรียกว่า  ต้าฉงอู่เตียน  เป็นวิหารกลางปลูกบนยกพื้นด้วยหินแกรนิต  ส่วนภายในนักท่องเที่ยวหรือนักทัวร์จีนจะได้พบกับพระปฏิมาประธานด้วยกันทั้ง 3 องค์  ตรงกลางจะเป็นพระศากยมุนี  และข้าซ้ายเป็นพระไภษัชยคุรุ  ด้านขวาเป็นพระอมิตาภะ   ส่วนผนังทั้งสองด้านเป็นพระอรหันต์ข้างละ 9 องค์ด้วยกัน  รวมเป็น 18 องค์ ที่เรียกว่า  จับโป้ยหล่อฮั่น   ตรงกลางเป็นพระแม่กวนอิมเหยียบบนปลาหลีฮื้อ  เรียกกันว่า  กวนอิมทะเลใต้นั่นเอง   และอีกหลากหลายทางปะติมากรรมที่ถูกสร้างขึ้นอีกมากมาย ณ สถานที่แห่งนี้ที่นักทัวร์จีนหรือนักท่องเที่ยวจีนจะได้ชื่นชมและทำการสักการะบูชา

ทัวร์จีนแนะนำประวัติศาสตร์จีน

ก่อนจะไปเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศจีน  ทัวร์จีนก็มีความรู้เชิงประวัติศาสตร์ของดินแดนมังกรมาให้ทราบกัน  จะได้รู้สึกซาบซึ้งไปกับบรรยากาศของประเทศจีน เพราะประเทศจีนเองเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแนวมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหรือเชิงประวัติศาสตร์  ซึ่งโปรแกรมทัวร์จีนเองอยากแนะนำลูกทัวร์ว่าการที่เราจะไปเที่ยวที่ไหน หากเราใส่ใจในรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นไว้บ้าง ก็จะเป็นการเพิ่มอรรถรสในการเที่ยวชมได้ด้วย 

หากกล่าวถึงประเทศจีน เราก็จะนึกถึง สงครามกลางเมือง (Chinese Civil War) ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับพรรคก๊กมินตั๋ง (ชื่อทางการว่า:พรรคชาตินิยมแห่งประเทศจีน (KMT)) สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2492 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยจบลงด้วยการที่ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เข้าปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนพรรคก๊กมินตั๋งได้เข้าปกครองไต้หวัน และเกาะบางเกาะในมณฑลฝูเจี้ยน ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492 เหมาเจ๋อตุง ได้ประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ การปกครองในสมัยของเหมานั้น เข้มงวดและกวดขัน แม้กระทั่งชีวิตประจำวันของประชาชน

หลังจากที่เหมาถึงแก่อสัญกรรม เติ้งเสี่ยวผิงก็ได้ขึ้นสู่อำนาจ โดยจีนยังคงอยู่ในระบอบคอมมิวนิสต์ หลังจากนั้นรัฐบาลจีนจึงได้ค่อยๆ ลดการควบคุมชีวิตส่วนตัวของประชาชน และพยายามที่จะปฏิรูประบบเศรษฐกิจของตนให้เป็นไปตามกลไกตลาดการปฏิวัติในจีน

เจียง ไคเช็ก เป็นผู้นำของจีนระหว่าง พ.ศ. 2471 ถึง พ.ศ. 2492การปฏิวัติครั้งแรกของจีนเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2454 (ค.ศ. 1911) ซึ่งเป็นการโค่นล้มอำนาจการปกครองของราชวงศ์ชิง โดยการนำของ ดร. ชุน ยัตเซน หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง เป็นผลทำให้จีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ประชาธิปไตยในที่สุด สาเหตุที่ก่อให้เกิดการโค่นล้มอำนาจครั้งนี้น่าจะมาจากความเสื่อมโทรมของสภาพสังคมจีน ผู้นำประเทศจักรพรรดิแมนจูไม่มีอำนาจกำลังพอที่จะปกครองประเทศได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาปกครอง 268 ปี (พ.ศ. 21872455) มีแต่การแย่งชิงอำนาจในหมู่ผู้นำราชวงศ์ ด้วยเหตุนี้ราษฎรส่วนมากจึงตกอยู่ในสภาพยากจน ชาวไร่ชาวนาถูกขูดรีดภาษีอย่างหนัก ถูกเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าของที่ดิน ชาวต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ แผ่นดินจีนถูกคุกคามจากต่างชาติ    โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจตะวันตก และญี่ปุ่น ซึ่งจีนทำสงครามต่อต้านการรุกรานของกองกำลังต่างชาติเป็นฝ่ายแพ้มาโดยตลอด ทำให้คณะปฏิวัติไม่พอใจระบอบการปกครองของราชวงศ์แมนจู   เจียง ไคเช็ก เป็นผู้นำของจีนระหว่าง พ.ศ. 2471 ถึง พ.ศ. 2492

         เพื่อความสำเร็จในการแก้ปัญหาของของประเทศชาติ ซุน ยัตเซ็น ผู้นำฯ จึงได้ประกาศอุดมการณ์ของการปฏิวัติ 3 ประการ เรียกว่า ลัทธิไตรราษฎร์ขึ้นมา

               นี่คือสรุปโดยย่อของประวัติศาสตร์ประเทศจีน แต่ถ้าใครอยากศึกษาแบบเต็มๆปัจจุบันนี้ก็มีข้อมูลที่หาไม่ยากเลยทั้ง  ว่าแต่พอรู้ประวัติศาสตร์จีนแล้ว เวลาไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆของประเทศจีนก็ควรรู้จักทำความเคารพโบราณสถาน โบราณวัตถุของประเทศเขาด้วย เหมือนอย่างที่คนไทยเองก็อยากให้ชาวต่างชาติให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราเคารพสักการะ  ไปเที่ยวเพื่อสนุกได้แต่จะให้ดีควรทำตัวให้มีสาระด้วยนะ